การเฝ้าดูแลสถานที่
พนักงานรักษาความปลอดภัยจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลาห้ามมิให้บุคคลภายนอกซึ่งมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องไปในบริเวณสถานที่ผู้ว่าจ้าง หรือผ่านเข้าไปในเขตหวงห้ามเว้นเสียแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ว่าจ้างเสียก่อนหากสงสัยไม่สามารถตัดสินใจได้ให้สอบถามจากทางผู้ว่าจ้างเสียก่อนหรืออาจสอบถามจากหัวหน้างานก่อนก็ได้
การปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุอาชญากรรมหรือโจรกรรม
ถ้า ร.ป.ภ. พบว่าเกิดเหตุอาชญากรรมาหรือ โจรกรรมขึ้นภายในบริเวณสถานที่ของผู้ว่าจ้างจะต้องปฏิบัติดังนี้
- แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยทันที
- แจ้งเหตุให้ผู้ว่าจ้างทราบ
- แจ้งเหตุให้ผู้บังคับบัญชา หรือหน่วยงาน องค์กร ต้นสังกัด ของตนทราบ
- ห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุโดยเด็ดขาด
- ห้ามแตะต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ในบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมา
การปฏิบัติ กรณีมีผู้มาบุกรุก
ถ้า ร.ป.ภ. ทราบหรือสงสัยว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในสถานที่ของผู้ว่าจ้างจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยเร็ว และอย่าให้ผู้บุกรุกรู้ตัว ร.ป.ภ.จะต้องเฝ้าดูไม่ให้ผู้บุกรุกคลาดสายตา และควรบันทึกรูปร่างลักษณะต่างๆ ของผู้บุกรุกไว้ด้วย เช่น เพศ ความสูง อายุ สีผิว สีผม ทรงผม ลักษณะใบหน้า หู ตา จมูก ปาก การแต่งกาย ท่าทางการเดิน สำเนียงการพูด หากนำยานพาหนะมาด้วย ให้บันทึกชนิดยานพาหนะ หมายเลขทะเบียนสีรถหรือตำหนิอื่น ๆไว้ด้วย
การจับกุมผู้บุกรุกควรกระทำเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้จับกุมซึ่งจะทำได้ง่ายและปลอดภัยกว่าที่ ร.ป.ภ. จะดำเนินการจับกุมเอง
การปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
- พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องทำการดับเพลิงในทันทีที่พบเห็นเพลิงไหม้
- ถ้าไม่สามารถดับเพลิงได้พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องแจ้งหัวหน้าหน่วยตามลำดับชั้นและแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน
- ป้องกันไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ
- บันทึกที่เกิดเหตุ ( วัน/และวัน เดือน ปี ) ไว้เป็นหลักฐาน